365WECARE

เบาหวาน (Diabetes) คืออะไร? สาเหตุและความเสี่ยงจากน้ำตาลในเลือดสูง

เบาหวาน (Diabetes) เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากความผิดปกติในการผลิตหรือการทำงานของอินซูลิน ฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เมื่อร่างกายหลั่งอินซูลินไม่เพียงพอหรือตอบสนองต่ออินซูลินได้ไม่ดี น้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้นเกินปกติ ทำให้เกิดอาการและภาวะแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่าง ๆ ระดับน้ำตาลหลังมื้ออาหารที่เกิน 140 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรถือว่าเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน หากไม่ได้รับการดูแล อาจนำไปสู่โรคหัวใจ ไตวาย เบาหวานขึ้นตา และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้

ความเสี่ยงเมื่อน้ำตาลในเลือดสูง ⚡

 

   โรคเบาหวานเป็นโรคที่ร่างกายบกพร่องในการผลิตฮอร์โมนอินซูลินจากตับอ่อน ซึ่งฮอร์โมนอินซูลินมีความสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือด และยังช่วยในการนำน้ำตาลไปใช้ในเซลล์เพื่อสร้างเป็นพลังงานให้กับเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งคนปกติหลังทานข้าวจะมีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ที่ 120-130 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร และมักจะไม่เกินที่ระดับ 140 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ถ้าคนมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่านี้ก็จะถือว่าเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวาน

 

สาเหตุของเบาหวาน

 

   สาเหตุที่สำคัญของ “เบาหวาน” เกิดขึ้นเนื่องจากเซลล์ในตับอ่อนภายในร่างกายของเรามีการสร้างและหลั่งสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “อินซูลิน” ซึ่งสารนี้มีหน้าที่ในการควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือดของคนเราให้อยู่ในระดับปกติ แต่เมื่ออินซูลินถูกหลั่งออกมาไม่เพียงพอจะทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดของเราสูงเกินกว่าในคนปกติ จึงเป็นผลทำให้เกิดอาการป่วยที่เรียกว่า “เบาหวาน

 

อินซูลิน...คืออะไร ?

 

   เบต้าเซลล์ภายในตับอ่อนมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลิน ในแต่ละครั้งที่รับประทานอาหาร เบต้าเซลล์จะผลิตอินซูลินเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายใช้หรือสะสมน้ำตาลที่ได้รับจากอาหาร

 

 ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ เนื่องจากกลุ่มเซลล์ดังกล่าวถูกทำลาย ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงต้องได้รับการฉีดอินซูลินเพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถนำน้ำตาลจากอาหารที่รับประทานเข้าไปมาใช้ประโยชน์ได้

 

ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 สามารถผลิตอินซูลินได้ แต่ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินนั้น ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงต้องการยาลดการดื้ออินซูลินหรือการฉีดอินซูลินเพื่อให้ร่างกายสามารถนำน้ำตาลมาใช้ประโยชน์ได้

 

   อินซูลินไม่สามารถรับประทานได้ เนื่องจากจะถูกทำลายระหว่างการย่อยอาหารเช่นเดียวกับโปรตีนในอาหาร

 

ชนิดของเบาหวาน 

 

เบาหวานชนิดที่ 1 เป็นชนิดพึ่งอินซูลิน (IDDM)

เบาหวานชนิดที่ 1 นี้ พบประมาณ 5-10% ของโรคเบาหวานทุกประเภท ปัจจัยเสี่ยงของเบาหวานชนิดที่ 1 นั้นมีน้อยกว่าเบาหวานชนิดที่ 2 ปัจจัยที่มีส่วนทำให้เกิดภาวะเบาหวานชนิดที่ 1 ได้แก่ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง พันธุกรรม และสภาพแวดล้อมของผู้ป่วย

 

เบาหวานชนิดที่ 2 คือชนิดไม่ต้องพึ่งอินซูลิน (NIDDM)

เบาหวานชนิดที่ 2 นี้ พบเป็นจำนวน 90-95% ของจำนวนโรคเบาหวานทุกชนิด ปัจจัยเสี่ยงของเบาหวานประเภทนี้ได้แก่ อายุที่มากขึ้น ความอ้วน บุคคลในครอบครัวมีประวัติเป็นเบาหวาน ประวัติการเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความต้านทานต่อกลูโคสต่ำ ร่างกายไม่เคลื่อนไหว เชื้อชาติ ความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ มีประวัติเคยเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด

 

เบาหวานที่เกิดในช่วงตั้งครรภ์ เกิดขึ้น 2-5% ของจำนวนหญิงตั้งครรภ์ทั้งหมด แต่ส่วนใหญ่พบหลังการคลอดบุตรแล้ว ผู้หญิงที่มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์มีโอกาสเสี่ยงเพิ่มขึ้นของการพัฒนาที่จะเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 มีงานวิจัยกล่าวไว้ว่า ร้อยละ 40 ของผู้หญิงที่มีประวัติเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์จะพัฒนาเป็นเบาหวานได้ในอนาคต

 

โรคเบาหวาน มีอาการอย่างไร 

 

   อาการหลักๆ ที่สื่อว่าคนๆนั้นมีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน ได้แก่ รู้สึกหิวบ่อย, กระหายน้ำ, ปัสสาวะมีปริมาณมากและบ่อย อีกทั้งก็ยังมีอาการอื่นๆ ได้แก่

 

เหนื่อย อ่อนเพลีย

 

ผิวแห้ง เกิดอาการคันบริเวณผิว

 

ตาแห้ง

 

มีอาการชาที่เท้าหรือรู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่ปลายเท้าหรือที่เท้า

 

ร่างกายซูบผอมลงผิดปกติ โดยไม่สามารถหาสาเหตุได้

 

เมื่อเกิดบาดแผลที่บริเวณต่างๆ ของร่างกายมักหายช้ากว่าปกติ โดยเฉพาะแผลที่เกิดกับบริเวณเท้า

 

สายตาพร่ามัวในแบบที่หาสาเหตุไม่ได้

 

โรคแทรกซ้อนที่เกิดจากเบาหวาน 

 

โรคหัวใจ เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตที่สัมพันธ์กับโรคเบาหวาน ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจประมาณ 2-4 เท่าของผู้ที่ไม่ได้เป็นโรคเบาหวาน

 

ภาวะหัวใจขาดเลือด ความเสี่ยงของโรคภาวะหัวใจขาดเลือดมีจำนวนสูงขึ้น 2-4 เท่าของคนที่เป็นโรคเบาหวาน

 

ความดันโลหิตสูง ประมาณร้อยละ 60-65 ของคนที่เป็นโรคเบาหวานจะมีภาวะความดันโลหิตสูงร่วมด้วย

 

ตาบอด เบาหวานเป็นสาเหตุหลักของผู้ป่วยรายใหม่ที่ตาบอดเนื่องจากโรคเบาหวานในผู้ที่มีอายุ 20-74 ปี

 

โรคไต เบาหวานเป็นสาเหตุหลักของโรคไตวายระยะสุดท้าย และคิดเป็นร้อยละ 40 ของผู้ป่วยรายใหม่ของโรคไตวายเรื้อรัง

 

โรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท ประมาณร้อยละ 60-70 ของผู้ป่วยโรคเบาหวานมักเกิดการทำลายระบบประสาทขั้นปานกลางถึงรุนแรง (รวมถึงประสาทความรู้สึกบกพร่องหรือความเจ็บปวดที่มือหรือเท้า ระบบย่อยอาหารผิดปกติ อาการพังผืดที่ข้อมือ (CTS) และอื่นๆ) โรคทางระบบประสาทจากเบาหวานขั้นรุนแรงเป็นสาเหตุสำคัญของการตัดเท้าหรือขา

 

โรคแทรกซ้อนอื่นๆ เบาหวานอาจเป็นสาเหตุของเหตุการณ์ที่รุนแรงและฉับพลัน เช่น ภาวะการเสียสมดุลของอินซูลิน และ ภาวะโคม่าจากน้ำตาลในเลือดสูง รวมถึงผู้ป่วยเบาหวานที่มีการควบคุมดูแลไม่ดีจะมีการติดเชื้อได้ง่าย

[1] Phyllis A. Balch. Stress. In: a member of Penguin Group (USA) Inc. Prescription for Nutritional Healing. Forth Edition. New York: AVERY; 2006. p. 370-372.

[2] คู่มือการใช้ยา นายแพทย์กำพล ศรีวัฒนกุล, คู่มือการใช้ยาทางอายุรกรรม จุฬาอายุรศาสตร์, เภสัชวิทยา ภาควิชาเภสัชวิทยา กองการศึกษา วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฏเกล้า, The British Medical Association.

[3] Phyllis A. Balch. Stress. In: a member of Penguin Group (USA) Inc. Prescription for Nutritional Healing. Forth Edition. New York: AVERY; 2006. p. 375-376.

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

365wecare call365wecare Line365wecare Facebook365wecare Tiktok

ฝ่ายบริการลูกค้า

080-365-3696

ติดตามเราได้ที่

หน้าหลัก

shopping_cart
0

ตะกร้าสินค้า

แบรนด์

โปรโมชั่น