365WECARE

ตาแห้ง (Dry Eyes) คืออะไร? สาเหตุ อาการ และการดูแลเบื้องต้น 

 

  ตาแห้ง (Dry Eyes) เป็นภาวะที่ต่อมน้ำตาทำงานผิดปกติ ทำให้มีน้ำตาไม่เพียงพอหรือระเหยเร็วเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการแสบตา ระคายเคือง เหมือนมีฝุ่นในตา หรือแม้แต่น้ำตาไหลมากผิดปกติ สาเหตุอาจมาจากการใช้สายตานานเกินไป การใส่คอนแทคเลนส์ ภูมิแพ้ การผ่าตัดตา หรืออยู่ในสภาพอากาศแห้ง ลมแรง การดูแลเบื้องต้นทำได้โดยพักสายตา กระพริบตาบ่อย ๆ ใช้น้ำตาเทียม และดื่มน้ำให้เพียงพอ รวมถึงสวมแว่นกันแดดเพื่อลดการระคายเคืองและป้องกันอาการกำเริบ

 

โรคตาแห้ง ภัยร้ายแรงกว่าที่คิด

 

   ตาแห้ง เป็นโรคตาที่เกิดจากระบบต่อมน้ำตาทำงานผิดปกติ ทำให้มีปริมาณน้ำตาไม่เพียงพอหรือมีการระเหยของน้ำตาที่มากเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการไม่สบายตา เช่น เคืองตา แสบตา ตาแห้ง เป็นต้น

 

รู้หรือไม่...?

 

   คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่า โรคตาแห้ง ตาจะต้องแห้งไม่มีน้ำตาเลย แต่แท้จริงแล้ว โรคตาแห้ง อาจจะมีอาการน้ำตาไหลตลอดเวลา หรือ ตาแฉะมาก ไม่ได้แห้งเหมือนอย่างที่ชื่อโรคบอกไว้ ซึ่งอาการตาแห้ง มี 2 ลักษณะ คือ แบบที่ไม่มีน้ำตาออกมา กับ แบบที่น้ำตาพยายามหลั่งออกมาแต่ไม่พอ เมื่อหลั่งมาไม่พอก็จะหลั่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ตาแฉะนั่นเอง

 

สาเหตุของอาการตาแห้ง

 

  • ใช้สายตาเป็นเวลานานๆ เช่น อ่านหนังสือ ใช้คอมพิวเตอร์
  • มีการสร้างน้ำตาลลดลง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
  • ใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน หรือใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่มีคุณภาพ
  • เป็นภูมิแพ้ที่ตา หนังตา หรือเยื่อตาอักเสบเรื้อรัง
  • รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ ยาคลายเครียด
  • เคยทำเลสิก หรือผ่าตัดตา
  • ผู้ที่มีปัญหาหลับตาไม่สนิท
  • อยู่ในบริเวณอากาศแห้ง ลมแรง เป็นเวลานาน

 

อาการตาแห้ง

 

  • คันตา แสบตา ระคายเคืองตา
  • มีความรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมคล้ายทรายหรือฝุ่นอยู่ในตา
  • ▶ แพ้แสง แพ้ลม
  • บริเวณตาขาวมีสีแดงจากการอักเสบ ขอบเปลือกตาแดง
  • ตาพร่ามัว
  • รู้สึกไม่สบายตาเมื่อตื่นนอน

 

การดูแลและป้องกันตาแห้ง

 

  • หากจำเป็นต้องใช้สายตานานๆ ควรพักสายตาทุก 3-60 นาที ด้วยการหลับตา 1-2 นาที
  • กระพริบตาบ่อยๆ ให้มีน้ำตาเคลือบตาตลอดเวลา
  • หากรู้สึกระคายเคืองตา ควรหยอดน้ำตาเทียมเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตา
  • ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์นานเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน
  • ผู้รับประทานยาแก้แพ้เป็นประจำ อาจจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมช่วย
  • ดื่มน้ำมากๆ
  • ควรสวมแว่นกันแดดหรือกันลม หากจำเป็นต้องอยู่ในบริเวณที่อากาศแห้ง ร้อน หรือมีลมพัดแรง
  • รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา เช่น ผัก ผลไม้ ปลา หรืออาหารทะเลที่มีกรดไขมันที่จำเป็น หรือโอเมก้า-3
  • ประคบด้วยน้ำอุ่น นวดและฟอกทำความสะอาดเปลือกตา เพื่อกำจัดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกที่บริเวณรอบเปลือกตา ช่วยลดการเกิดต่อมไขมัน เปลือกตาอุดตัน ซึ่งเป็นเหตุทำให้เปลือกตาอักเสบเรื้อรัง

 

การรักษาโรคตาแห้ง

 

มีหลายวิธีที่สามารถปฏิบัติเองได้ง่ายๆ จนถึงต้องพบจักษุแพทย์ วิธีการรักษามีดังนี้

 

1.ลดการระเหยของน้ำตาให้น้อยลง เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลดีคือ หลีกเสี่ยงการปะทะโดยตรงกับแดดและลมโดยสวม

แว่นกันแดดเมื่ออยู่กลางแจ้ง ไม่นั่งในที่ที่มีลมพัดหรือแอร์เป้าใส่หน้า

2.กระพริบตาถี่ๆ ในภาวะปกติคนเราจะกระพริบตานาทีละ 20-22 ครั้ง ทุกครั้งที่กระพริบตา เปลือกตาจะรีดน้ำตาให้

มาฉาบผิวกระจกตา แต่ถ้าขณะที่จ้องหรือเพ่งตาจะลืมค้างไว้นานกว่าปกติ ทำให้กระพริบตาได้เพียง 8-10 ครั้ง

น้ำตาก็จะระเหยออกไปมากทำให้ตาแห้งเพิ่มขึ้น จึงควรพักสายตา โดยการหลับตา กระพริบตา หรือลุกขึ้นเปลี่ยน

อริยบท ประมาณ 2-3 นาที ในทุกครึ่งชั่วโมง 

3.สำหรับผู้ที่ตาแห้งมาก อาจใช้กรอบแว่นชนิดพิเศษที่มีแผ่นคลุมปิดกันลมด้านข้าง แว่นชนิดนี้มีคุณสมบัติช่วยครอบ

ทั้งดวงตาและป้องกันลมด้วย หรือจะใช้แผ่นชิลิโคนชนิดพิเศษ ที่ใสบาง และนุ่ม นำมาตัดให้เข้ากับด้านข้างของ

กรอบแว่นตาคู่เดิม ซึ่งเรียกว่า Moist Chamber

4.การอุดรระบายน้ำตา สำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งอย่างรุนแรง จักแพทย์จะใช้วิธีอุดรูระบายน้ำตาเพื่อชังน้ำตาที่มีอยู่

ให้หล่อเลี้ยงตาอยู่ได้นานๆไม่ปล่อยให้หลทิ้งไป เหมือนกับการสร้างเขื่อนกั้นเก็บกั้นเก็บกักน้ำไว้ใช้

5.ใช้น้ำตาเทียม เป็นยาหยอดตาที่ใช้เพื่อหล่อลื่นและให้ความชุ่มชื้นกับผู้ที่ตาแห้ง การรักษาด้วยวิธีใช้น้ำตาเทียม เวลา

ในการหยอดตาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการตาแห้ง หากวันใดไม่ถูกลม แล้วรู้สึกสบายตาก็ไม่จำเป็นต้อง

หยอด แต่ถ้ารู้สึกเคืองตามาก ก็หยอดบ่อยๆได้ตามต้องการ

 

การดูแลและป้องกันตาแห้ง

  •  หากจำเป็นต้องใช้สายตานานๆ ควรพักสายตาทุก 3-60 นาที ด้วยการหลับตา 1-2 นาที
  •  กระพริบตาบ่อยๆ ให้มีน้ำตาเคลือบตาตลอดเวลา
  •  หากรู้สึกระคายเคืองตา ควรหยอดน้ำตาเทียมเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ตวงตา
  •  ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์นานเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน
  •  ผู้รับประทานยาแก้แพ้เป็นประจำ อาจจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมช่วย
  • ​​​​​​​ ดื่มน้ำมากๆ
  • ​​​​​​​ ควรสวมแว่นกันแดดหรือกันลม หากจำเป็นต้องอยู่ในบริเวณที่อากาศแห้ง ร้อน หรือมีลมพัดแรง
  • ​​​​​​​ รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา เช่น ผัก ผลไม้ ปลา หรืออาหารทะเลที่มีกรดไขมันที่จำเป็น หรือโอเมก้า-3
  • ​​​​​​​ ประคบด้วยน้ำอุ่น นวดและฟอกทำความสะอาดเปลือกตา เพื่อกำจัดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกที่บริเวณรอบเปลือกตา
  • ​​​​​​​ ช่วยลดการเกิดต่อมไขมัน เปลือกตาอุดตัน ซึ่งเป็นเหตุทำให้เปลือกตาอักเสบเรื้อรัง

​​​​​​​

ข้อควรระวังในการใช้น้ำตาเทียม

 

   ผู้ป่วยที่ตาแห้งน้อย หยอดตาไม่เกินวันละ 4-5 ครั้ง สามารถช้ยาหยอดตาชนิดที่มีสารกันเสียได้ กรณีผู้ป่วยที่ตาแห้ง

มาก และหยอดตามากกว่าวันละ 6 ครั้ง จักษุเพทย์จะสั่งน้ำตาเทียมชนิดพิเศษที่ไม่มีสารกันบูต (Preservative-Free Tear)

ให้ใช้แทน ซึ่งมีข้อจำกัด คือ ยาจะบรรจุในหลอดเล็ก เมื่อเปิดใช้แล้วต้องใช้ให้หมดภายใน 16 ชั่วโมง หากใช้นานกว่านี้อาจเกิด

การปนเปื้อนของเชื้อโรค

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

365wecare call365wecare Line365wecare Facebook365wecare Tiktok

ฝ่ายบริการลูกค้า

080-365-3696

ติดตามเราได้ที่

หน้าหลัก

shopping_cart
0

ตะกร้าสินค้า

แบรนด์

โปรโมชั่น