สาเหตุของโรคสะเก็ดเงินยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น ภูมิคุ้มกันผิดปกติ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง สาเหตุทางพันธุกรรม ทำให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวเร็วกว่าปกติ จนทำให้เซลล์ผิวหนังเกิดการซ้อนทับกัน โดยเซลล์เก่าจะหลุดไม่ทันการแบ่งตัวของเซลล์ใหม่ ทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวหนาขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นผื่นสะเก็ดหนา ผู้ที่เป็นโรคตังกล่าว ต้องหมั่นสังเกตอาการตนเอง หาสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรคให้พบ เพื่อหลีกเสี่ยงมิให้เกิดโรคซ้ำขึ้นมาอีก ผลิตภัณฑ์สำหรับ สะเก็ดเงิน (Psoriasis) ที่เราแนะนำ
การรักษาโรคสะเก็ดเงินเป็นการรักษาให้โรคสงบ แต่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ หากมีสิ่งมากระตุ้นโรคจะสามารถกำเริบได้อีกโดยในการรักษาแพทย์จะเลือกรักษาตามความรุนแรง แบ่งออกเป็น ผลกระทบจากโรคสะเก็ดเงิน ► อาการคัน ไม่ถึงขั้นรุนแรง แต่สร้างความรำคาญ ► อาการผื่นตามผิวหนังอาจส่งผลด้านบุคลิกภาพ ทำให้สูญเสียความมั่นใจ ► หากเป็นนาน ๆ อาจมีอาการข้ออักเสบร่วมด้วย ► หากมีอาการทางข้อแล้วไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจทำให้ข้อผิดรูปและพิการได้ ปัจจัยเสี่ยงของสะเก็ดเงิน 1. ความเครียด 2. พักผ่อนไม่เพียงพอ 3. การติดเชื้อ 4. การแกะและเกาบริเวณที่มีอาการ 5. การดื่มสุราและสูบบุหรี่ 6. น้ำหนักเกิน ลักษณะการกระจายของโรคสะเก็ดเงิน ที่พบบ่อยมี 2 แบบ แบบแรก เป็นผื่นนูนขนาดเล็ก ๆ กระจายทั่วตัว (guttate psoriasis) มักเกิดในระยะเวลาสั้น ๆ พบบ่อยในเด็กหลังจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ผื่นชนิดนี้จะค่อย ๆ จางหายได้เองหลังได้รับการรักษาอาการติดเชื้อทางเดินหายใจให้หายไป แต่มีโอกาสกลับเป็นซ้ำอีก แบบที่สอง เป็นผื่นเรื้อรังเฉพาะที่ (psoriasis vulgaris หรือ plague type psoriasis) มักพบที่ ข้อศอก หัวเข่า หลัง สะโพก หนังศีรษะ เป็นผื่นขนาดใหญ่ ผื่นจะขยายค่อยเป็นค่อยไปและอาจหายได้เองแต่ช้า ซึ่งอาจต้องได้รับการรักษาที่เหมาะสม ผื่นสะเก็ดเงินเมื่อหายมักจะไม่เหลือรอย แต่ในบางรายเมื่อผื่นหายจะเป็นรอยดำ แต่สีผิวก็จะค่อย ๆ ปรับจนกลับมาเป็นปกติในภายหลัง การปฏิบัติตัวของผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน ข้อควรปฏิบัติของคนรอบข้างผู้ป่วยสะเก็ดเงิน ► ทำความเข้าใจว่าโรคดังกล่าวไม่ใช่โรคติดต่อ และเป็นโรคที่ไม่เกี่ยวกับการติดเชื้อและไม่เกี่ยวข้องกับความสกปรก สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้ป่วยได้อย่างปกติ ► ให้กำลังใจผู้ป่วย และคำแนะนำเกี่ยวกับการรักษากับผู้ป่วย แม้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ทำให้โรคสงบได้ ► ไม่เพิ่มความเครียดให้กับผู้ป่วย เพราะโรคนี้มีความเครียดเป็นปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญ นอกจากการรักษาข้างต้นที่กล่าวมาแล้วนั้น การให้ความรู้ผู้ป่วยและญาติมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน การเข้าใจความจริงที่ว่าสะเก็ดเงินเป็นโรคไม่ติดต่อ ผู้ป่วยจะไม่ถูกรังเกียจจากคนรอบข้าง ญาติและคนใกล้ชิดควรเข้าใจและให้กำลังใจผู้ป่วย และเนื่องจากโรคสะเก็ดเงินเป็นโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยควรดูแลปฏิบัติตนให้ถูกต้อง จะช่วยควบคุมโรคให้สงบได้ ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นซึ่งได้แก่ ความเครียด การพักผ่อนน้อย และการดื่มสุรา รวมถึงยาบางชนิดสามารถกระตุ้นให้โรคกำเริบได้ เช่น ยาลดความดันโลหิตบางชนิด ยาทางจิตเวช (lithium) เป็นต้น
เอกสารอ้างอิง |