แบรนด์
บทความ
แผลกดทับ (Bed Sore)
เส้นเลือดขอด (Varicose Vein)
ภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin Allergy)
ริดสีดวงทวารหนัก (Hemorrhoids)
กระดูกพรุน (Osteoporosis)
ความจำเสื่อมและอัลไซเมอร์ (Dementia /Alzheimers)
เก๊าท์ (Gout)
ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
ท้องผูก (Constipation)
กรดไหลย้อน (GERD)
ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ (Respiratory allergy)
ตาแห้ง (Dry eyes)
สิว (Acne)
ผมร่วง (Hair Loss)
ไมเกรน (Migraine)
เวชสำอางสำหรับสิว (Acne Dermocosmetics)
ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด (Sun Block& Sun Screen)
ผิวริ้วรอย..แก่ก่อนวัย (Wrinkle Skin)
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis)
แผ่นมาส์กผิวหน้า (Facial mask)
ผิวบอบบางแพ้ง่าย (Sensitive skin)
ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ
แชมพูกำจัดรังแค (Anti-Dandruff Shampoo)
ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วง (Anti-Hair loss Shampoo)
หนังศีรษะบอบบาง (Sensitive scalp Shampoo)
ผิวแตกลาย (Anti Stretch Mark)
ผลิตภัณฑ์สำหรับจุดซ่อนเร้น
กลุ่มอโรมาเธอราพี (Aromatherapy)
บำรุงรอบดวงตา
ผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับเด็ก
สเปรย์น้ำทะเล เจือจางพ่นหรือล้างจมูก
อุปกรณ์ล้างจมูก (Nasal Rinsing System)
น้ำเกลือ (Normal Saline)
อุปกรณ์วัดออกซิเจนปลายนิ้ว (Fingertip Oximeter)
ถุงให้อาหาร (Nutrition Bag)
เครื่องวัดความดัน (Blood Pressure Monitor)
ที่นอนลม (Mattress)
เบาะเจลป้องกันแผลกดทับ Anti-Bedsore Gel Cushion
รถเข็นผู้ป่วย (Wheel Chair)
เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือด (Blood Glucose Monitor)
พลาสเตอร์และอุปกรณ์ทำแผล (Bandage&Wound Dressing)
อุปกรณ์พยุงหลัง (Back Support)
แผ่นแปะเท้าและแก้ปวดเมื่อย (Foot Pads and Medicated Plaster)
ทิชชู่เปียกและผ้าเปียก (Cleansing Wipes)
แป้นถ่ายติดหน้าท้อง พร้อมถุงถ่ายหน้าท้อง (Valore Fianges Ring Size)
สารอาหาร
กระชายดำ (Krachaidum)
เห็ดหลินจือ (Reishi)
ผลกุหลาบป่า (Rose Hip)
หลินจือสกัด (Lingzhi Extract)
D-Manose
Licorice (Glycyrrhiza glabra)
แอล-ซิสเทอีน L-Cysteine
สารสกัดจากมิลเลท Millet Extract
วาเลอเลียน (Valerian)
ทีทรีออยล์ (Tea tree oil)
วิตามินรวม (Multi-Vitamins)
สารสกัดเอคไคเนเชีย (Echinesia)
คอนโดรอิติน (Chondroitin)
น้ำมันโบราจ Borage Oil
สารสกัดเมล่อน Melon Extract (SOD)
วิธีสั่งซื้อ
น้ำมันคริลล์ (Krill Oil) คือ น้ำมันที่สกัดจากเคย สัตว์ทะเลขนาดเล็กที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ทั้ง DHA และ EPA ซึ่งอยู่ในรูปฟอสโฟลิพิด ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าน้ำมันปลา (Fish Oil) อีกทั้งยังมีสารแอสตาแซนทิน (Astaxanthin) สารต้านอนุมูลอิสระสีแดงที่ช่วยปกป้องเซลล์ ชะลอวัย และดูแลสุขภาพผิว นอกจากนี้ น้ำมันคริลล์ยังมีกรดไขมันโอเมก้า 6 และโอเมก้า 9 ที่ช่วยบำรุงหัวใจ หลอดเลือด ลดการอักเสบของข้อ และบรรเทาอาการปวดประจำเดือน จึงได้รับความนิยมในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
Krill oil หรือ คริลล์ออย เป็นน้ำมันที่สกัดมากจากสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกุ้งขนาดเล็กๆ ที่เรียกว่า ‘เคย’ ที่คนนิยมเอาไปทำกะปิกันนั่นแหละค่ะ ด้วยความที่ krill oil อุดมไปด้วย omega 3 ที่ประกอบไปด้วย DHA และ EPA เหมือน fish oil หลายคนจึงเข้าใจว่า krill oil กับ fish oil น่าจะคล้ายๆกัน แต่จริงๆแล้ว เจ้า krill oil มีคุณประโยชน์ที่มากกว่านั้น เนื่องจาก krill oil ประกอบด้วย omega 3 ที่จับอยู่กับ phospholipids ซึ่งเป็น form ที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี ในขณะที่ fish oil เป็น omega 3 ที่จับกับ triglycerides ซึ่งเป็นไขมันชนิดหนึ่งที่ไม่ละลายน้ำ ทำให้เวลารับประทาน fish oil กระเพาะอาหารจะต้องใช้ตัวช่วยก็คือ emulsifier เพื่อให้ fish oil รวมตัวกับน้ำและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ ดังนั้นในแง่ของการดูดซึม krill oil จะดีกว่า fish oil นอกเหนือจากนั้น หากลองสังเกตที่ตัวของเคย จะพบว่ามีสีแดง ซึ่งเกิดจากส่วนประกอบที่สำคัญ คือ Astaxanthin ที่เป็นสุดยอดของสารต้านอนุมูลอิสระตัวหนึ่ง ที่โดดเด่นในเรื่องการชะลอวัย ป้องกัน UV จากแสงแดด ลดจุดด่างดำของผิว และมีฤทธิ์ลดการอักเสบของเซลล์ได้ อีกทั้งด้วยความที่ astaxanthin เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงสามารถปกป้องไม่ให้ omega 3 ใน krill oil ถูกออกซิไดซ์ได้ง่าย ซึ่งเป็นการลดการเกิดโทษต่อร่างกายและเป็นการยืดอายุของ omega 3 อีกด้วย
นอกจากนี้ คริลล์ออยล์ ยังอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 6 กรดไขมันโอเมก้า 9 สารต้านอนุมูลอิสระสีแดงที่ชื่อ แอสตาแซนทิน (Astaxanthin) ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับไลโคปีนและเบต้าแคโรทีน ฟอสโฟลิพิด จากสารสำคัญต่าง ๆ เหล่านี้ จึงทำให้คริลล์ออย มีประโยชน์ในการดูแลสุขภาพหัวใจ และ หลอดเลือด ลดอาการจ้อเสื่อม ข้ออักเสบ บรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนก่อนมีประจำเดือน ได้ประโยชน์จากธรรมชาติ
ข้อแตกต่างระหว่าง Krill oil กับ Fish oil
Krill oil Fish oil แหล่งที่มา *เคย *ปลาทะเล ส่วนประกอบ
DHA /EPA
PHOSPHATIDYLCHOLINE
ASTAXANTHIN DHA /EPA
- ชนิดของ OMEGA มี OMEGA 3-6-9 มี OMEGA 3 การละลาย ละลายได้ทั้งในน้ำและไขมัน ละลายในไขมัน การดูดซึม ดูดซึมง่าย ดูดซึมยาก ต้องอาศัยตัวทำละลาย การปนเปื้อน มีความบริสุทธิ์สูง ปนเปื้อนน้อย พบสารปนเปื้อนมาก ความแรง 650mg. (1.5 เท่าของ์Fish oil) 1,000 mg. ผลข้างเคียง - ท้องอืด เรอ
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า omega 3 สามารถลดระดับ triglyceride ที่มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจได้ โดย omega 3 จะไปเพิ่มระดับ HDL ที่ช่วยในการลำเลียงไขมันที่ไม่ดีออกจากหลอดเลือด ซึ่งทั้ง fish oil และ krill oil ต่างมีส่วนช่วยในการลดระดับ triglyceride ได้ทั้งคู่ แต่มีบางการศึกษากล่าวว่าต้องรับประทาน fish oil ในปริมาณที่มากกว่า krill oil ถึงสองเท่า จึงจะได้ผลลัพธ์ในการลดระดับ triglyceride ที่เท่ากัน ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากการดูดซึมของ krill oil เข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่า fish oil นั่นเอง
► ประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไขมันอุดตันเส้นเลือดหัวใจและสมอง โดยการช่วยลดไขมันโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด
► ประโยชน์ต่อสุขภาพข้อและการอักเสบ ช่วยลดอาการ และช่วยป้องกันการเกิดข้อเสื่อมและการอักเสบข้อ ในผู้ที่มีปัญหาข้อเสื่อม และข้อรูมาตอยด์ มีการรับรองมาตรฐานการผลิต ความปลอดภัยจากสารปนเปื้อน และโลหะหนักต่างๆ จากหลายสถาบันชั้นนำของโลก เช่น The Natural Health Products Directorate (NHPD) of Canada, Generally Recognized as Safe (GRAS)ขนาดการรับประทานที่เหมาะสมของ คริลล์ออย (Krill oil)
► เพื่อลดระดับไขมันในเลือด
► เพื่อบรรเทาอาการข้ออักเสบ ข้อรูมาตอยด์
► บรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน ปวดท้อง เจ็บคัดตึงหน้าอก
1. ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากมี omega 3 ที่ช่วยลดระดับไขมันในเลือดที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในอนาคต
2. ผู้ที่ต้องการลดการอักเสบต่างๆในร่างกาย เช่น ข้ออักเสบ, ปวดท้องประจำเดือน เป็นต้น
3. ผู้ที่ต้องการบำรุงสายตา ผู้ที่ตาแห้งหรือ มีปัญหาทางสายตา เนื่องจากมี DHA ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของจอประสาทตา
4. ผู้ที่ต้องการบำรุงสมอง ด้วยส่วนประกอบที่สำคัญของ krill oil คือ DHA และ phosphatidylcholine ที่ช่วยในการเพิ่มการเรียนรู้และจดจำ
5. ผู้ที่ต้องการชะลอวัย บำรุงผิว ลดเลือนริ้วรอย เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง คือ Asthaxanthin ที่ต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินซีและวิตามินอีมากกว่า 10 เท่า
จากคุณสมบัติของน้ำมันคริลล์ ตามที่กล่าวมา น้ำมันคริลล์จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันในเลือดสูง ต้องการลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดและหัวใจ ลดอาการปวดอักเสบตามข้อต่อรวมทั้งผู้ที่ต้องการบำรุงผิวพรรณ บำรุงสมองและระบบประสาทขนาดรับประทานที่แนะนำต่อวัน หากต้องการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจควรรับประทาน 500 มก.วัน ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหัวใจแนะนำให้รับประทานได้ถึง 1–3 กรัม/วัน
+ ช่วยให้ระบบการตอบสนองของระบบภูมิต้านทานของร่างกายตอบสนองได้อย่างปกติ
+ ลดการเกิดการอักเสบ
+ ส่งเสริมสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด
+ ส่งเสริมการทำงานของสมอง และสุขภาพของสมอง
+ ส่งเสริมการทำงานการเคลื่อนไหวของข้อ
+ ลดอาการของไขข้ออักเสบรูมาตอยด์
+ ส่งเสริมสุขภาพของผิวหนัง
+ ลดการปวด และอาการข้อติดขัด
+ เพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องร่างกายจากรังสี UV ที่ทำให้ผิวหนังถูกทำลาย
+ ส่งเสริมให้ระบบ DHA ในสมองปกติ ส่งเสริมสุขภาพจิตใจ
+ มีผลต่อการสร้างสารสื่อประสาท และการสร้างพรอสตาแกลนดิน ที่มีความสำคัญต่อการทำงานของสมอง
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
สินค้าของแท้
ส่งเร็วทันใจ
เปลี่ยน/คืนได้ภายใน 14 วัน
รีวิวมากมายจากผู้ใช้จริง