แบรนด์
บทความ
แผลกดทับ (Bed Sore)
เส้นเลือดขอด (Varicose Vein)
ภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin Allergy)
ริดสีดวงทวารหนัก (Hemorrhoids)
กระดูกพรุน (Osteoporosis)
ความจำเสื่อมและอัลไซเมอร์ (Dementia /Alzheimers)
เก๊าท์ (Gout)
ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
ท้องผูก (Constipation)
กรดไหลย้อน (GERD)
ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ (Respiratory allergy)
ตาแห้ง (Dry eyes)
สิว (Acne)
ผมร่วง (Hair Loss)
ไมเกรน (Migraine)
เวชสำอางสำหรับสิว (Acne Dermocosmetics)
ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด (Sun Block& Sun Screen)
ผิวริ้วรอย..แก่ก่อนวัย (Wrinkle Skin)
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis)
แผ่นมาส์กผิวหน้า (Facial mask)
ผิวบอบบางแพ้ง่าย (Sensitive skin)
ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ
แชมพูกำจัดรังแค (Anti-Dandruff Shampoo)
ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วง (Anti-Hair loss Shampoo)
หนังศีรษะบอบบาง (Sensitive scalp Shampoo)
ผิวแตกลาย (Anti Stretch Mark)
ผลิตภัณฑ์สำหรับจุดซ่อนเร้น
กลุ่มอโรมาเธอราพี (Aromatherapy)
บำรุงรอบดวงตา
ผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับเด็ก
สเปรย์น้ำทะเล เจือจางพ่นหรือล้างจมูก
อุปกรณ์ล้างจมูก (Nasal Rinsing System)
น้ำเกลือ (Normal Saline)
อุปกรณ์วัดออกซิเจนปลายนิ้ว (Fingertip Oximeter)
ถุงให้อาหาร (Nutrition Bag)
เครื่องวัดความดัน (Blood Pressure Monitor)
ที่นอนลม (Mattress)
เบาะเจลป้องกันแผลกดทับ Anti-Bedsore Gel Cushion
รถเข็นผู้ป่วย (Wheel Chair)
เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือด (Blood Glucose Monitor)
พลาสเตอร์และอุปกรณ์ทำแผล (Bandage&Wound Dressing)
อุปกรณ์พยุงหลัง (Back Support)
แผ่นแปะเท้าและแก้ปวดเมื่อย (Foot Pads and Medicated Plaster)
ทิชชู่เปียกและผ้าเปียก (Cleansing Wipes)
แป้นถ่ายติดหน้าท้อง พร้อมถุงถ่ายหน้าท้อง (Valore Fianges Ring Size)
สารอาหาร
กระชายดำ (Krachaidum)
เห็ดหลินจือ (Reishi)
ผลกุหลาบป่า (Rose Hip)
หลินจือสกัด (Lingzhi Extract)
D-Manose
Licorice (Glycyrrhiza glabra)
แอล-ซิสเทอีน L-Cysteine
สารสกัดจากมิลเลท Millet Extract
วาเลอเลียน (Valerian)
ทีทรีออยล์ (Tea tree oil)
วิตามินรวม (Multi-Vitamins)
สารสกัดเอคไคเนเชีย (Echinesia)
คอนโดรอิติน (Chondroitin)
น้ำมันโบราจ Borage Oil
สารสกัดเมล่อน Melon Extract (SOD)
วิธีสั่งซื้อ
DHEA (Dehydroepiandrosterone) เป็นฮอร์โมนตั้งต้นที่สร้างจากต่อมหมวกไต มีบทบาทสำคัญในการผลิตฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนและฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน ระดับ DHEA จะสูงสุดในช่วงวัยผู้ใหญ่และค่อย ๆ ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น จึงถูกใช้เป็นตัวบ่งชี้ภาวะชรา ฮอร์โมนนี้ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน การทำงานของสมอง ความจำ และอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคเสื่อมบางชนิด การทำความเข้าใจ DHEA จึงมีความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพและการประเมินสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย
ฮอร์โมน DHEAs หรือฮอร์โมนดีเอชอีเอ (Dehydroepiandrosterone Sulfate ชื่ออื่น ๆ : DHEAS, DHEA-S, DHEA, DHEA-SO4,) เป็นฮอร์โมนตั้งต้นที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเพศชายและฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิง และฮอร์โมนในกลุ่มสเตียรอยด์ชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาของลักษณะทางเพศของผู้ชายในวัยแรกรุ่น
ฮอร์โมน DHEAs ส่วนใหญ่ผลิตในต่อมหมวกไต ซึ่งเป็นต่อมเล็ก ๆ สองอันที่อยู่เหนือไตของคุณ ช่วยควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิตและการทำงานของร่างกายอื่น ๆ ฮอร์โมน DHEAs ปริมาณน้อยผลิตในอัณฑะของผู้ชายและรังไข่ของผู้หญิง หากระดับ DHEAs ของคุณไม่ปกติอาจหมายถึงมีปัญหากับต่อมหมวกไตหรืออวัยวะเพศของคุณ (อัณฑะหรือรังไข่) ซึ่งสามารถค้นหาปัญหาหรืออาการต่างๆ ได้อย่างง่ายดายเมื่อตรวจสุขภาพ
ความแปรปรวนของฮอร์โมน DHEAs มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะพร่องฮอร์โมนในเพศชายและความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคอัลไซเมอร์ รวมถึงภาวะเสื่อมถอยด้านกระบวนความคิดและการรับรู้ ฮอร์โมน DHEAs จะมีมากสุดในช่วงวัยผู้ใหญ่ และลดระดับลงเฉลี่ยปีละ 1-2% จนกระทั่งอายุ 90 ปี จุดนี้เอง จึงนำมาใช้เป็นตัวบ่งชี้การเกิดภาวะชรา และประเมินความเสี่ยงการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุที่เพิ่มขึ้น ฮอร์โมนนี้จะช่วยต้านความชรา ลดการสะสมของไขมัน เพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ป้องกันโรคมะเร็ง และส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาทและสมองในด้านความจำ
★ โรคแพ้ภูมิตัวเอง
★ ความเจ็บป่วยเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันที่มีลักษณะโรคปากแห้งตาแห้ง (Sjögren‘s syndrome)
★ กระดูกอ่อน (กระดูกพรุน)
★ ลักษณะกล้ามเนื้อเจริญผิดเพี้ยน ที่กล้ามเนื้อพิการที่หน้าและคอลีบ
★ กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อ เอ็น และเนื้อเยื่ออ่อน
★ โรคระบบประสาทมีการเสื่อมของปลอกประสาท (MS)
★ ระดับฮอร์โมนสตีรอยด์ต่ำ (โรคแอดดิสัน)
★ ภาวะซึมเศร้า
★ โรคจิตเภท
★ กลุ่มอาการเพลียเรื้อรัง (CFS)
★ กล้ามเนื้อเสียหายจากการออกกำลังกาย
★ โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง
★ โรคพาร์กินสัน
★ อาทิเชีย พิวบิส (Atrichia pubis)
★ การลดน้ำหนัก
★ อาการของวัยหมดประจำเดือน
★ โรคข้ออักเสบรูมาทอยด์
★ การเสื่อมสภาพของผิว
ส่วนใหญ่ผู้ชายจะไม่มีอาการของการมีฮอร์โมน DHEAs ในระดับสูง แต่จะแสดงอาการชัดเจนในผู้หญิงและเด็กผู้หญิง โดนมีรายละเอียด ดังนี้
★ การเจริญเติบโตของร่างกายและขนบนใบหน้ามากเกินไป
★ เสียงพูดเล็กหรือแหบผิดปกติ
★ ความผิดปกติของประจำเดือน
★ สิวเห่อ
★ กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นคล้ายผู้ชาย
★ ผมร่วงที่ส่วนบนของศีรษะ
★ การบ่งบอกโรค
★ ความผิดปกติของต่อมหมวกไต
★ เนื้องอกหรือเป็นมะเร็งต่อมหมวกไต
★ กลุ่มอาการรังไข่ Polycystic (PCOS) PCOS เป็นโรคฮอร์โมนทั่วไปที่มีผลต่อการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการมีบุตรยากหญิง
★ น้ำหนักลดมากผิดปกติและหาสาเหตุไม่ได้
★ มีอาการคลื่นไส้และอาเจียนบ่อยๆ
★ เวียนหัว
★ เกิดภาวะขาดน้ำ
★ อยากเกลือหรือของเค็มๆ
★ ผิวหนังแห้งเหี่ยว หรือริ้วรอยก่อนวัยอันควร
★ เกิดอาการซึมเศร้า
★ ความต้องการทางเพศลดลง หรือหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
★ เกิดการบางของเนื้อเยื่อช่องคลอดในผู้หญิง ที่จะทำให้ขาดหรืออักเสบได้ง่าย
★ การบ่งบอกโรค
★ ภาวะผิดปกติของต่อมหมวกไต
★ โรคกระดูกพรุน
★ โรคแอดดิสัน คือ โรคที่ทำให้ต่อมหมวกไตไม่สามารถทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนจำเป็นต่างๆ ได้เพียงพอ
★ เกิดภาวะ Hypopituitarism ที่จะมีอาการที่เกี่ยวข้องกัน เช่น อาการเบื่ออาหาร ไม่มีแรง ประจำเดือนมาไม่ปกติ ผิวแห้ง ปวดตามข้อ ความดันโลหิตต่ำ เวียนหัวเวลาลุกขึ้น ระดับเกลือโซเดียมในเลือดต่ำ ความต้องการทางเพศลดลง มีบุตรยาก
★ สำหรับผิวเสื่อมสภาพ ใช้ดีเอชอีเอ 50 กรัมทุกวัน เป็นเวลา 12 เดือน
★ สำหรับ ภาวะซึมเศร้า ใช้ดีเอชอีเอ 30 – 450 มก. ทุกวันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ทั้งใช้โดยลำพังหรือใช้ร่วมกับยารักษาอาการซึมเศร้า เพิ่มการใช้ดีเอชอีเอได้จนถึง 500 มก. ได้ทุกวันเป็นเวลา 8 สัปดาห์
★ สำหรับภาวะต่อมหมวกไตเสียการทำงาน (ปัญหาการผลิตฮอร์โมน) ขนาดยาดีเอชอีเอที่แนะนำคือ 12 – 200 มิลลิกรัม ทุกวัน จนถึง 12 เดือน
★ สำหรับเอดส์/เอชไอวี ขนาดยาดีเอชอีเอที่แนะนำคือ 50–2 250 มิลลิกรัม ทุกวัน จนถึง 16 สัปดาห์
★ สำหรับการเพิ่มความหนาแน่นมวลกระดูก ขนาดยาดีเอชอีเอที่แนะนำคือ 50 – 200 มิลลิกรัม เป็นเวลาจนถึง 2 ปี
★ สำหรับกลุ่มอาการเพลียเรื้อรัง ขนาดยาดีเอชอีเอที่แนะนำคือ 500 มิลลิกรัม ทุกวัน เป็นเวลาจนถึง 6 เดือน
★ สำหรับโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ขนาดยาดีเอชอีเอที่แนะนำคือ 200 มิลลิกรัม ทุกวัน เป็นเวลา 12 เดือน
★ สำหรับความผิดปกติด้านความจำ ขนาดยาดีเอชอีเอที่แนะนำคือ 25 – 400 มิลลิกรัม เป็นเวลาจนถึง 6 เดือน
★ สำหรับโรคเบาหวาน ขนาดยาดีเอชอีเอที่แนะนำคือ 25 – 75 มิลลิกรัม เป็นเวลาจนถึง 1 ปี ขนาดยาดีเอชอีเอเพิ่มขึ้นเป็น 1600 มิลลิกรัม ทุกวันเป็นเวลา 28 วัน
★ สำหรับการขาดยา ขนาดยาดีเอชอีเอที่แนะนำคือ 100 มิลลิกรัม ทุกวัน เป็นเวลา 12 สัปดาห์ และ 12 เดือน
★ สำหรับกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อ เอ็น และเนื้อเยื่ออ่อน ขนาดยาดีเอชอีเอที่แนะนำคือ 50 มิลลิกรัม ทุกวัน เป็นเวลา 3 เดือน
★ สำหรับโรคหัวใจ ขนาดยาดีเอชอีเอที่แนะนำคือ 25 – 150 มิลลิกรัม เป็นเวลาจนถึง 2 ปี
★ สำหรับยากระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ขนาดยาดีเอชอีเอที่แนะนำคือ 50 มิลลิกรัม ทุกวัน เป็นเวลา 20 สัปดาห์
★ สำหรับการมีบุตรยาก ขนาดยาดีเอชอีเอที่แนะนำคือ 25 – 80 มิลลิกรัม ทุกวัน เป็นเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์ จนถึง 4 เดือน
★ สำหรับโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ขนาดยาดีเอชอีเอที่แนะนำคือ 200 มิลลิกรัม ทุกวัน เป็นเวลา 56 วัน
★ สำหรับโรคลูปัส ขนาดยาดีเอชอีเอที่แนะนำคือ 20 – 200 มิลลิกรัม เป็นเวลาจนถึง 2 ปี
★ สำหรับวัยหมดประจำเดือน ขนาดยาดีเอชอีเอที่แนะนำคือ 10 – 50 มิลลิกรัม ทุกวัน จนถึง 12 เดือน อีกทางเลือกขนาดยาดีเอชอีเอ-เอส 100 มิลลิกรัม ทุกวัน เป็นเวลา 3 เดือน
ทำให้เกิดผลข้างเคียงกับผู้หญิง ดังนี้
★ ผิวมัน
★ การเพิ่มขึ้นของขนอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
★ เสียงทุ้ม
★ ประจำเดือนมาไม่ปกติ
★ ขนาดของหน้าอกเล็กลง
★ ขนาดของอวัยวะเพศเพิ่มขึ้น
★ อาการเจ็บเต้านม
★ อาการอยากถ่ายปัสสาวะทันทีทันใด
★ ความก้าวร้าว
★ การลดขนาดของอัณฑะ
★ สิว
★ ปัญหาการนอน
★ อาการปวดหัว
★ อาการคลื่นไส้
★ ผิวหนังมีอาการคัน
★ อารมณ์เปลี่ยนแปลง
แต่ผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับทุกคน และอาจมีอาการจากผลข้างเคียงอื่นที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น หากมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องผลข้างเคียง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร หรือ แพทย์
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
สินค้าของแท้
ส่งเร็วทันใจ
เปลี่ยน/คืนได้ภายใน 14 วัน
รีวิวมากมายจากผู้ใช้จริง