แบรนด์
บทความ
แผลกดทับ (Bed Sore)
เส้นเลือดขอด (Varicose Vein)
ภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin Allergy)
ริดสีดวงทวารหนัก (Hemorrhoids)
กระดูกพรุน (Osteoporosis)
ความจำเสื่อมและอัลไซเมอร์ (Dementia /Alzheimers)
เก๊าท์ (Gout)
ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
ท้องผูก (Constipation)
กรดไหลย้อน (GERD)
ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ (Respiratory allergy)
ตาแห้ง (Dry eyes)
สิว (Acne)
ผมร่วง (Hair Loss)
ไมเกรน (Migraine)
เวชสำอางสำหรับสิว (Acne Dermocosmetics)
ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด (Sun Block& Sun Screen)
ผิวริ้วรอย..แก่ก่อนวัย (Wrinkle Skin)
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis)
แผ่นมาส์กผิวหน้า (Facial mask)
ผิวบอบบางแพ้ง่าย (Sensitive skin)
ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ
แชมพูกำจัดรังแค (Anti-Dandruff Shampoo)
ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วง (Anti-Hair loss Shampoo)
หนังศีรษะบอบบาง (Sensitive scalp Shampoo)
ผิวแตกลาย (Anti Stretch Mark)
ผลิตภัณฑ์สำหรับจุดซ่อนเร้น
กลุ่มอโรมาเธอราพี (Aromatherapy)
บำรุงรอบดวงตา
ผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับเด็ก
สเปรย์น้ำทะเล เจือจางพ่นหรือล้างจมูก
อุปกรณ์ล้างจมูก (Nasal Rinsing System)
น้ำเกลือ (Normal Saline)
อุปกรณ์วัดออกซิเจนปลายนิ้ว (Fingertip Oximeter)
ถุงให้อาหาร (Nutrition Bag)
เครื่องวัดความดัน (Blood Pressure Monitor)
ที่นอนลม (Mattress)
เบาะเจลป้องกันแผลกดทับ Anti-Bedsore Gel Cushion
รถเข็นผู้ป่วย (Wheel Chair)
เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือด (Blood Glucose Monitor)
พลาสเตอร์และอุปกรณ์ทำแผล (Bandage&Wound Dressing)
อุปกรณ์พยุงหลัง (Back Support)
แผ่นแปะเท้าและแก้ปวดเมื่อย (Foot Pads and Medicated Plaster)
ทิชชู่เปียกและผ้าเปียก (Cleansing Wipes)
แป้นถ่ายติดหน้าท้อง พร้อมถุงถ่ายหน้าท้อง (Valore Fianges Ring Size)
สารอาหาร
กระชายดำ (Krachaidum)
เห็ดหลินจือ (Reishi)
ผลกุหลาบป่า (Rose Hip)
หลินจือสกัด (Lingzhi Extract)
D-Manose
Licorice (Glycyrrhiza glabra)
แอล-ซิสเทอีน L-Cysteine
สารสกัดจากมิลเลท Millet Extract
วาเลอเลียน (Valerian)
ทีทรีออยล์ (Tea tree oil)
วิตามินรวม (Multi-Vitamins)
สารสกัดเอคไคเนเชีย (Echinesia)
คอนโดรอิติน (Chondroitin)
น้ำมันโบราจ Borage Oil
สารสกัดเมล่อน Melon Extract (SOD)
วิธีสั่งซื้อ
ตาแห้ง (Dry Eyes) เป็นภาวะที่ต่อมน้ำตาทำงานผิดปกติ ทำให้มีน้ำตาไม่เพียงพอหรือระเหยเร็วเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการแสบตา ระคายเคือง เหมือนมีฝุ่นในตา หรือแม้แต่น้ำตาไหลมากผิดปกติ สาเหตุอาจมาจากการใช้สายตานานเกินไป การใส่คอนแทคเลนส์ ภูมิแพ้ การผ่าตัดตา หรืออยู่ในสภาพอากาศแห้ง ลมแรง การดูแลเบื้องต้นทำได้โดยพักสายตา กระพริบตาบ่อย ๆ ใช้น้ำตาเทียม และดื่มน้ำให้เพียงพอ รวมถึงสวมแว่นกันแดดเพื่อลดการระคายเคืองและป้องกันอาการกำเริบ
ตาแห้ง เป็นโรคตาที่เกิดจากระบบต่อมน้ำตาทำงานผิดปกติ ทำให้มีปริมาณน้ำตาไม่เพียงพอหรือมีการระเหยของน้ำตาที่มากเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการไม่สบายตา เช่น เคืองตา แสบตา ตาแห้ง เป็นต้น
รู้หรือไม่...?
คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่า โรคตาแห้ง ตาจะต้องแห้งไม่มีน้ำตาเลย แต่แท้จริงแล้ว โรคตาแห้ง อาจจะมีอาการน้ำตาไหลตลอดเวลา หรือ ตาแฉะมาก ไม่ได้แห้งเหมือนอย่างที่ชื่อโรคบอกไว้ ซึ่งอาการตาแห้ง มี 2 ลักษณะ คือ แบบที่ไม่มีน้ำตาออกมา กับ แบบที่น้ำตาพยายามหลั่งออกมาแต่ไม่พอ เมื่อหลั่งมาไม่พอก็จะหลั่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ตาแฉะนั่นเอง
มีหลายวิธีที่สามารถปฏิบัติเองได้ง่ายๆ จนถึงต้องพบจักษุแพทย์ วิธีการรักษามีดังนี้
1.ลดการระเหยของน้ำตาให้น้อยลง เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลดีคือ หลีกเสี่ยงการปะทะโดยตรงกับแดดและลมโดยสวม
แว่นกันแดดเมื่ออยู่กลางแจ้ง ไม่นั่งในที่ที่มีลมพัดหรือแอร์เป้าใส่หน้า
2.กระพริบตาถี่ๆ ในภาวะปกติคนเราจะกระพริบตานาทีละ 20-22 ครั้ง ทุกครั้งที่กระพริบตา เปลือกตาจะรีดน้ำตาให้
มาฉาบผิวกระจกตา แต่ถ้าขณะที่จ้องหรือเพ่งตาจะลืมค้างไว้นานกว่าปกติ ทำให้กระพริบตาได้เพียง 8-10 ครั้ง
น้ำตาก็จะระเหยออกไปมากทำให้ตาแห้งเพิ่มขึ้น จึงควรพักสายตา โดยการหลับตา กระพริบตา หรือลุกขึ้นเปลี่ยน
อริยบท ประมาณ 2-3 นาที ในทุกครึ่งชั่วโมง
3.สำหรับผู้ที่ตาแห้งมาก อาจใช้กรอบแว่นชนิดพิเศษที่มีแผ่นคลุมปิดกันลมด้านข้าง แว่นชนิดนี้มีคุณสมบัติช่วยครอบ
ทั้งดวงตาและป้องกันลมด้วย หรือจะใช้แผ่นชิลิโคนชนิดพิเศษ ที่ใสบาง และนุ่ม นำมาตัดให้เข้ากับด้านข้างของ
กรอบแว่นตาคู่เดิม ซึ่งเรียกว่า Moist Chamber
4.การอุดรระบายน้ำตา สำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งอย่างรุนแรง จักแพทย์จะใช้วิธีอุดรูระบายน้ำตาเพื่อชังน้ำตาที่มีอยู่
ให้หล่อเลี้ยงตาอยู่ได้นานๆไม่ปล่อยให้หลทิ้งไป เหมือนกับการสร้างเขื่อนกั้นเก็บกั้นเก็บกักน้ำไว้ใช้
5.ใช้น้ำตาเทียม เป็นยาหยอดตาที่ใช้เพื่อหล่อลื่นและให้ความชุ่มชื้นกับผู้ที่ตาแห้ง การรักษาด้วยวิธีใช้น้ำตาเทียม เวลา
ในการหยอดตาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการตาแห้ง หากวันใดไม่ถูกลม แล้วรู้สึกสบายตาก็ไม่จำเป็นต้อง
หยอด แต่ถ้ารู้สึกเคืองตามาก ก็หยอดบ่อยๆได้ตามต้องการ
ผู้ป่วยที่ตาแห้งน้อย หยอดตาไม่เกินวันละ 4-5 ครั้ง สามารถช้ยาหยอดตาชนิดที่มีสารกันเสียได้ กรณีผู้ป่วยที่ตาแห้ง
มาก และหยอดตามากกว่าวันละ 6 ครั้ง จักษุเพทย์จะสั่งน้ำตาเทียมชนิดพิเศษที่ไม่มีสารกันบูต (Preservative-Free Tear)
ให้ใช้แทน ซึ่งมีข้อจำกัด คือ ยาจะบรรจุในหลอดเล็ก เมื่อเปิดใช้แล้วต้องใช้ให้หมดภายใน 16 ชั่วโมง หากใช้นานกว่านี้อาจเกิด
การปนเปื้อนของเชื้อโรค
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
สินค้าของแท้
ส่งเร็วทันใจ
เปลี่ยน/คืนได้ภายใน 14 วัน
รีวิวมากมายจากผู้ใช้จริง